Gen Z & Millennials ปี 2025: ไม่ได้ต้องการแค่เงินเดือนดี แต่ “ความหมาย” และ “คุณภาพชีวิต” ก็ต้องมา
- Boonnada Phetnui
- 1 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ในยุคที่การทำงานไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียวอีกต่อไป รายงานจาก Deloitte Global Gen Z and Millennial Survey ปี 2025 ที่สอบถามกลุ่มคนรุ่นใหม่กว่า 23,000 คน จาก 44 ประเทศทั่วโลก เผยให้เห็นว่า Gen Z และ Millennials กำลังตามหา “สูตรสำเร็จ” ของชีวิตทำงาน ที่ผสมผสานกันระหว่าง เงิน ความหมาย และสุขภาพจิต ที่ดี

เมื่อชีวิตการทำงานต้องมีอะไรมากกว่าแค่ "เงินเดือน"
แม้เรื่องเงินจะยังเป็นเรื่องใหญ่ แต่เกือบครึ่งของคนรุ่นใหม่ก็ยังรู้สึก “ไม่มั่นคงทางการเงิน” และพบว่านั่นส่งผลโดยตรงต่อ “ความรู้สึกมีคุณค่า” และ “สุขภาพจิต” เลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน 9 ใน 10 ของคน Gen Z และ Millennials ก็บอกว่า "ความหมายของงาน" เป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสุขและความพึงพอใจในชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความภูมิใจในงานที่ทำ มีอิทธิพลในสังคม หรือแค่ได้ทำงานที่ทำให้รู้สึกว่า "ฉันมีคุณค่า"
ไม่ได้อยากเป็นหัวหน้า แต่ขอโอกาสพัฒนาให้เก่งขึ้นได้ไหม?
รู้ไหมว่า มีแค่ 6% ของ Gen Z เท่านั้นที่มองว่าเป้าหมายคือการ “ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำองค์กร” แต่พวกเขายังมองหาบริษัทที่ให้โอกาสในการ เรียนรู้และพัฒนา อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสกิลด้านเทคนิค หรือ “Soft Skills” อย่างการสื่อสาร ความเห็นอกเห็นใจ และภาวะผู้นำ
แต่ในความคาดหวังนั้นก็ยังมีช่องว่าง:
ครึ่งหนึ่งของ Gen Z และ Millennials อยากให้หัวหน้าสอนและเป็นพี่เลี้ยง (mentor) ให้
แต่มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่รู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนแบบนั้นจริงๆ
อีกทั้งยังมีคนไม่น้อยที่เริ่มตั้งคำถามว่า "มหาวิทยาลัย" ยังตอบโจทย์ตลาดแรงงานอยู่ไหม?

GenAI มาแรง! แต่ก็ยังมีทั้งความหวังและความกังวล
กว่า 70% ของคนรุ่นใหม่เชื่อว่า Generative AI (GenAI) จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของพวกเขาภายใน 1 ปี และตอนนี้ก็มีมากกว่าครึ่งที่ใช้งาน GenAI ในชีวิตการทำงานประจำวันอยู่แล้ว
ข้อดี:
งานดีขึ้น เร็วขึ้น
มีเวลาให้ชีวิตมากขึ้น
แต่ก็มีอีกด้าน:
6 ใน 10 คน ยังรู้สึกกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน
หลายคนเริ่มหางานที่ "ปลอดภัย" จากการถูกแทนที่โดย AI
ที่น่าสนใจคือ คนส่วนใหญ่กลับมองว่า “Soft Skills” อย่างความเข้าใจคน และการคิดสร้างสรรค์ จะเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดร่วมกับ AI ในอนาคต

สุขภาพจิตดี = งานมีคุณค่า
ผลสำรวจยังพบความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ:
คนที่มีสุขภาพจิตดี มักรู้สึกว่างานที่ทำ มีความหมายต่อสังคม
ในทางกลับกัน คนที่รู้สึกเครียดหรือไม่มีสุขภาพจิตที่ดี มักจะรู้สึกว่างานของตัวเอง “ไม่มีคุณค่า”
องค์กรควรปรับตัวอย่างไร ถึงจะอยู่รอดท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้
คำตอบง่าย ๆ แต่ท้าทายคือ “ฟังและเข้าใจคนทำงานให้มากขึ้น” โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างรวดเร็วแบบนี้ โดยองค์กรจะต้องปรับตัว ดังนี้
ออกแบบระบบงานที่ ยืดหยุ่น
สนับสนุนทั้ง การเรียนรู้และสุขภาพจิต
สร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้สึกว่า “สิ่งที่พวกเขาทำ มีความหมาย”
Comments