‘MIXUE’ (มี่เสวี่ย) แบรนด์ไอติมสัญชาติจีนบุกตลาดสยาม ตั้งเป้า 3 ปี ขยายสาขาในไทย 2,000 สาขา
- Boonnada Phetnui
- 28 ธ.ค. 2566
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 29 ธ.ค. 2566

‘MIXUE’ (มี่เสวี่ย) แบรนด์ไอศกรีมและชาเจ้าดังสัญชาติจีน ที่สร้างกระแสฮือฮาให้กับชาวไทยในช่วงปี 2566 นี้อย่างล้นหลาม ด้วยราคาที่ถูก รสชาติอร่อย และเมนูหลากหลาย สามารถครองใจวัยรุ่นไทยได้อย่างไม่น่าแปลกใจ
ประวัติธุรกิจร้านไอศครีมและชาจีนเจ้าดังมูลค่าแสนล้าน
MIXUE (มี่เสวี่ย) เป็นแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาสัญชาติจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแซงหน้าคู่แข่ง และกลายเป็นแบรนด์ที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของจีน ด้วยจำนวนสาขากว่า 25,000 แห่ง โดยมีสินค้ายอดนิยมอย่างไอศกรีมวาฟเฟิล น้ำเลม่อน ชาผลไม้ และชานม
ธุรกิจของ MIXUE เริ่มต้นก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1997 โดย ‘จาง หงเชา’ ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ซึ่งมองเห็นโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจร้านน้ำแข็งไส ในขณะยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 4 โดยเริ่มเปิดร้านครั้งแรกหลังเรียนจบ ด้วยเงินทุนตั้งต้นเพียง 4,000 หยวน (ราว 2 หมื่นบาท) ที่มีย่าของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน สินค้าหลักๆ ในร้าน ได้แก่ น้ำแข็งไส ไอศกรีม และสมูทตี้ ก่อนจะขยายมาขายพวกเมนูชานม
ต่อมาจึงได้ใช้ชื่อร้านว่า MIXUE BINGCHENG (蜜雪冰城) อ่านว่า “มี่เสวี่ยปิงเฉิง” มีความหมายแปลเป็นภาษาไทยว่า “ปราสาทน้ำแข็งที่สร้างด้วยหิมะแสนหวาน”ธุรกิจของ MIXUE เดินมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในปีค.ศ.2006 จากการเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจไอศกรีม Soft Serve เจ้าแรกๆ ในจีน สร้างกระแสฮือฮาทันทีที่เปิดตัว ด้วยการขายไอศกรีมในราคา 2 หยวน ซึ่งนับว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ในตลาดที่ขายกันอยู่ที่10 หยวน จนสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย และขยาย แฟรนไชส์ไปอย่างรวดเร็ว
"นำผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และราคาย่อมเยามาสู่ทุกคนทั่วโลก" เป็นเป้าหมายที่ MIXUE ยึดมั่น และเป็นที่มาของการพัฒนาระบบบริหารซัพพลายเชนของตัวเองจนกลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้สามารถควบคุมบริหารต้นทุน และคุณภาพสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการมีศูนย์วิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ทันสมัย, มีโรงงานที่เป็น “ครัวกลาง”ในการแปรรูปจัดเตรียมวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังมีคลังสินค้าและศูนย์โลจิสติกส์ของตัวเอง ทำให้เป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มแบรนด์แรกๆ ในจีนที่มีบริการขนส่งวัตถุดิบให้กับร้านค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงการจัดซื้อวัตถุดิบจากพื้นที่และโรงงานที่เป็นแหล่งผลิตโดยตรง ทำให้มีแต้มต่อด้านต้นทุนวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 20%
หลังจากประสบความสำเร็จในจีน MIXUE ได้รุกขยายสาขาร้านไอศครีมและชาไปยังต่างประเทศ โดยเปิดสาขาแรกในเวียดนามในปี ค.ศ. 2018 ตามมาด้วยประเทศอื่นๆในอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย นอกจากนี้ ยังรุกขยายสาขาไปเปิดในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
เส้นทางการบุกตลาดไทย
สำหรับการเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย ทางแบรนด์ได้นำร่องทดลองเปิดสาขาแรกที่รามคำแหงซอย 53 เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว และเลือกขยายสาขาในทำเลที่อยู่ในย่านชุมชน โดยเน้นใช้กลยุทธ์ขยายสาขาตามทำเลมหาวิทยาลัยและชุมชน เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในหมู่วัยรุ่นนักศึกษา และกลุ่มคนทั่วไป เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นจึงลงทุนใหญ่เปิดสาขาหลักที่ 'สยามสแควร์' เพื่อเป็นการเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ
เฉิน เสี่ยวเผิง หัวหน้าฝ่ายธุรกิจแฟรนไชส์ บริษัท มี่เสวี่ย(ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงเหตุผลของการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของบริษัทแม่ในประเทศไทยว่า มาจากมิตรภาพไทยจีนที่ลึกซึ้ง สภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดี และสภาพภูมิอากาศเมืองร้อนของไทย ซึ่งเหมาะกับการขายสินค้าหลักของทางร้านอย่างไอศกรีมและเครื่องดื่มชา ด้วยความโดดเด่นของ MIXUE ที่มีระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ทำให้มีความได้เปรียบในการบริหารต้นทุน ราคาและคุณภาพของสินค้า การเข้าสู่ตลาดประเทศไทยของ MIXUE ยังคงวางโพสิชั่นอยู่ในแนวทาง“สินค้าคุณภาพในราคาย่อมเยา” โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 15 - 50 บาท
พาเหรดตุ๊กตา Snow King โปรโมทร้าน MIXUE ที่ย่านใจกลางสยาม MIXUE’ สาขาสยามสแคร์ (Photo : MIXUE Thailand)
รู้หรือไม่?
MIXUE เป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก Mcdonald, Subway, Starbucks และ KFC
Source:
Comments